Friday, June 12, 2015

วัณโรค กับ บรรณโลก



เรื่อง: วัณโรค กับ บรรณโลก 





นึกย้อนกลับไปตอนนี้ก็เป็นเวลามากโข หลังจากห่างหายจากวัณโรค...อุ้ย บรรณโลก! อูย...น้อ ไม่ได้ใช้ภาษาไทยนาน อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย พูดแล้วจะหาว่าดัดจริต ใช้ภาษาไม่ค่อยถนัดปาก
เกริ่นเมื่อต้นหน้า คนอ่านงงกันว่าอีนี่ จะเล่าอะไร พล่ามน้ำลายท่วมทุ่ง มา...ซะเป็นโรคร้าย กันเลยเชียว  มาฟังเรื่องสาธยายชีวิตแสนรันทด  ใช้ชีวิตต่างแดน ตัวคนเดียว หัวฟีบกระเทียมฝ่อ ขอเล่าเรื่องการตรวจหาวัณโรคแล้วกัน ภาษาอังกฤษวันละคำ วันนี้ ขอนำเสนอคำว่า TB อ่านว่า “ทีบี”​ ชื่อเต็ม ๆ ของมันคือ Tuberculosis



ซองเอกสาร ผลตรวจร่างกายจากคลินิค สมบูรณ์ทุกประการ ไร้โรคภัยร้ายแรง




อย่าถามรายละเอียดว่าเกิดจากเชื้อไวรัส หรือแบคเตรี ชนิดไหน สายพันธุ์​ใด ฉันไม่ได้เรียนหมอมา เข้าใจ๊! เอาหล่ะ ทำไมสำคัญนักสำคัญหนา ก็เนื่องจากว่าเมื่อเดือนที่ผ่านมาไปสัมภาษณ์​ กรีนการ์ด (Initial Interview for Permanent Residence Application) สำหรับผู้พำนักถาวรในเมกา การสัมภาษณ์เป็นอย่างไร เดี๋ยวมารีวิวให้ฟัง เป็นความรู้ (ทำหน้าตาซีเรียส)​
แหม...​โหมดมีสาระ ก็เป็นเหมือนกันนะ


อาคารสัมภาษณ์กรีนการ์ด สำนักงานด้านพลเมือง 


แต่ขั้นตอนนี้มันข้ามขั้นมาหลายขุม สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลการเตรียมตัว จะบอกว่ากว่าจะถึงขั้นนี้ น้ำตาเล็ดเช็ดหัวเข่ากันเลยทีเดียว จำเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ  เมื่อไม่กี่ปีมานี้ กันได้ใช่ไหม? ปริมาตรน้ำเท่ากันเลย ความอดทน การรอคอยเหมือนเฝ้าให้น้ำลด ฝากความหวังกับดินฟ้าอากาศ รุกขเทวดา สถานที่ไหนศักดิ์สิทธิ์​ ตะเวนซิจ๊ะ ไหว้ประหลก ๆ มิหนำซ้ำเจ้าน้องสาว ยังมีหน้าลากไปไหว้พระวัดโน้นวัดนี้ทั่วกรุง


แพ็คกระเป๋า ก่อนเดินทางครั้งสำคัญ​ ออกจากประเทศไทย


รู้แต่เพียงว่า เจ้าวัณโรคนี้ มันจะจู่โจมเข้าทำร้ายปอด เนื้อเยื่อบาง ๆ กรองอากาศ ของคนเรา  บอกได้คำเดียวว่า “เสียว”​ ระเบียบการที่นี่เคร่งครัดมาก ทางการ (เมกา) ระบุให้เจ้าโรคนี้เป็นโรคติดต่อร้ายแรง คิดว่าน่าจะมีทางรักษานะ ต้องหาข้อมูลกันอีกที นอกจากนั้นยังมีโรคติดต่อทางเพศด้วย
อันนี้ยังไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่เดี๋ยวบล็อกต่อ ๆ ไปจะนำเสนอ จากชื่อบล็อกก็บอกอยู่แล้วว่า ไกลŸแดน เรื่องราวชีวิตบทใหม่ ได้เริ่มขึ้น หลังจากก้าวเท้าออกจากประเทศไทย บินลัดฟ้า ลงจอดที่อินเดีย บอกก่อนว่าไม่ใช่ทริปแรกของการเยือนเมืองภารตะ


ทริปเยือนอินเดียครั้งแรก ปี 2013


แต่การลงจอดที่อินเดียครั้งนี้ คือการก้าวออกไปไกลแดนอย่างเป็นทางการ ไปอยู่อินเดีย เรียนคอร์สครูโยคะหนึ่งเดือน จากนั้นก็บินต่อ เน็กซ์สเตชั่น อเมริกา ไม่วกกลับไปตั้งหลักที่ไทย นี่เองคือที่มา
ไม่ได้ติดใจกล้วยแขกอะไรหรอกนะ ไม่รู้ทำไม ตอนโพสต์รูปตั๋วเดินทาง จองไว้ไปอินเดีย พวกชะนีเพื่อนสาวเรียกร้อง “อย่าลืม เอากล้วยแขกมาฝากนะ”​ ย่ะ นังหอยหลอด คงอยากลองของแปลก ที่ไปเพราะมีแก่นสารหรอกย่ะ ฉันไปประชุมโยคะโลก ที่รัฐพิหาร เป็นช่วงเดือนวันเกิดพอดี เลยแวะไปนั่งสมาธิใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์​ เมืองพุทธคยา ก่อนจับรถไฟวิปโยค อันนี้ก็อีกเรื่องอยากจะเล่าสู่กันฟัง (อย่าลืมทวง)


ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์​ เมืองพุทธคยา สถานที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ 


แต่ละที่ที่ไปต้องเข้าไปปะปนกับฝูงชน ดีนะติดผ้าพันคอไปด้วย ถ้าเป็นสำนวนฝรั่งก็เปรียบเสมือนมีดพกประจำกาย (Swiss Knife) นะแจ๊ะ เอาผืนบางหน่อยแต่เน้นหน้ากว้าง จะหนาวก็หยิบมาห่มให้มิดคอเข้าไว้ จะร้อนก็กางออกมาบังแดด ไม่เว้นแม้แต่ปะปนหมู่มหาชน เอามาพันหน้าคลุมจมูกเลยจ้า อย่าได้แคร์​ ไม่มีใครรู้จักเรา เพราะเราเป็นนักท่องเที่ยว ไม่ได้หนักหัวกะบาลใคร ถ้าติดอีวัณโรคขึ้นมา เป็นของฝากหล่ะก็ อันนี้ก็ตัวใครตัวมันเน้อ


ชาวอินเดียรอรถไฟ เล่นนอนกันเลี่ยราดขนาดนี้ บอกเลย...อินเครดิเบิลสุด ๆ  


ย้อนกลับไป (หยุดคิดแป็บ) จำไม่ได้ว่าช่วงไหน รู้แต่ว่าไปตรวจเอ็กซเรย์ปอดที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เชียงใหม่นี่แหล่ะ ก่อนทำเรื่องขอวีซ่าถาวร ต้องตรวจร่างกายขนานใหญ่ ยังกะตั้งศูนย์ถ่วง ยกเครื่องใหม่ ฉีดวัคซีนกันหลายเข็ม ต้นแขนบวมขับรถกลับบ้าน


ฉีดวัคซีนที่สถานเสาวภา ตามเอกสารจำนวนเข็มที่ทางการระบุ


รู้นะว่าทุกคนก็เป็นกัน เวลาที่ไปตรวจโรคแล้วต้องใช้เวลาในการรอนาน ๆ จะลุ้นในใจ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีทีท่าว่าจะเป็นโรคนั้นมาก่อน พอลุ้นไปก็แอบไอกระแห่มในคอ อุปมาไปว่าตัวเองต้องเป็นวัณโรคแน่ ๆ นี่แหล่ะนา เขาเรียกพลังจิต ที่เมกา การตรวจร่างกาย สามารถทำได้ที่คลินิกทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านพลเมือง วันสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ ยื่นกระดาษพร้อมรายละเอียดให้ไปดำเนินการ
ฉายเดี่ยวซิจ๊ะ สามีไม่ว่าง วันนั้นเข้างานด้วย ที่ทำงานต้องขับรถเกือบ 46  ไมล์​ แปลงเป็นไทยก็ร่วม ๆ 70 กิโลเมตร ไกล ไม่อยากจะลากแฟนไปด้วย เป็นเรื่องที่จัดการเองได้ ขอหัวหน้าแว่บไปตรวจร่างกายก่อนกลับบ้าน คิวไม่ยาว ไม่มีการซักประวัติ ก่อนหน้าไม่กี่วัน โทรไปนัด
พยาบาลฝ่ายระเบียน “สวัสดีตอนบ่ายค๊า ดิฉันลิซ่า (ชื่อสมมติ)​ รับสาย มีอะไรให้รับใช้ค่ะ”​
โยคี เมียมะกัน “สวัสดีตอนบ่ายจ้า ฉันจะนัดหมอ ตรวจร่างกาย ทำฟอร์ม I-693”​
ลิซ่า “ค่ะ…หกเก้าสาม (นางทวน)​ ไม่ต้องนัดค๊า เข้ามาเลย”​
โยคี เมียมะกัน “แล้วราคาเท่าไหร่”​
ลิซ่า “เริ่มต้นที่ 280 ถึง 700 ดอลล่าร์ค๊า”​
โยคี เมียมะกัน​ “ว้าย... (พร้อมทำทีตกใจ) ค่าอะไรบ้าง?​ แล้วถ้าฉีดวัคซีนมาครบแล้ว บลาร์ ๆ ต้องเสียเท่าไหร่”​ ปลายสายให้ข้อมูลมา ฉันก็ฟัง ๆ ทำหน้างึกงัก รับทราบ  “งั้น พรุ่งนี้ ตอนบ่ายสองครึ่งเข้าไปพบแพทย์นะจ๊ะ”​
ลิซ่า “อีกครั้งนะค๊า ที่นี่ไม่ต้องจองคิว เข้ามาได้เลยค๊า”​
โยคี เมียมะกัน “เออ ลืม ขอโทษด้วยจ้า”​ วางสาย คิดด่าในใจ “อีดอก”​
พอไปถึงที่คลินิก จอดรถด้านหน้า เป็นคลินิกเล็ก ๆ อยู่ห่างจากตัวดาวน์ทาวน์​ แต่ติดถนนหลัก เดินทางง่าย มาตามกูเกิ้ลแมปได้สบาย ลงจากรถ เปิดประตูเข้าไป เจอพยาบาลสองคน นั่งเคาเตอร์เวชระเบียน ฉันแอบปล่อยไก่ บอกว่าโทรมานัดไว้ตอนบ่ายสองครึ่ง เหล่านางบาลทำหน้าแหนง ๆ เหมือนเจอมาหลายเคส ขอชื่อจริง นามสกุลจริง เบอร์โทร ขอตรวจใบขับขี่ด้วย เรียกเอกสารรับรองวัคซีนที่ฉีดมาจากไทย จากนั้นผายมือให้ไปนั่งรอที่โซนรับแขก ใช้เวลาไม่นาน นางพยาบาลเรียกอีกที เตรียมเอกสารให้กรอก และเซ็นต์ชื่อ จากนั้นก็จ่ายตังค์​ นั่งรอตรงหน้าเคาเตอร์นั่นเลย ไม่นานนัก พยาบาลอีกคน
รายนี้ผิวคล้ำหน่อย ตัดผมสั้น หน้าตาคมเล็ก ค่อน ๆ ไปทางรีฮันน่า ฉายาอีห่าน นักร้องสาวผิวสี นางคล่องแคล่วมาก เปิดห้องตรวจเข้ามา พร้อมเข็มสองกระบอก เริ่มใจคอไม่ดีแล้ว อันนี้เป็นครั้งแรกของการฉีดยาที่เมกา ได้ยินมาหลายหู ว่าการแพทย์ที่นี่ไม่ค่อยเบามือ พอเอาเข้าจริง “ว้าว มันวิเศษมาก”​ หลุดปากอุทานด้วยความทึ่ง นางแทงเข็มเข้าฉึก แล้วดึงออก  แอบตกใจเล็กน้อย ช่างรวดเร็วไรปานนี้ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เข็มถัดไปฉีดที่ท้องแขน เข็มนี้ที่ว่าสำคัญ​ หลังจากฉีดเสร็จ นางทำหน้าเครียดขึ้นมาทันที กำชับห้ามขูด แคะ แกะ เกา เป็นอันขาด หยิบปากกา เบี่ยงตัวกรอกข้อมูลลงเอกสาร ระบุวัน เวลา ปริมาตรที่ฉีด หมายเลขล็อต แขนข้างที่ฉีด เห็นนางอ่านทวนสองรอบ ฉันใจคอไม่ดี เริ่มหวั่น ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
กรอกข้อมูลเสร็จนางกัดฟัน ทำหน้าขรึม ย้ำห้ามขูด แคะ แกะ เกา เป็นอันขาด  อีก 2 วัน เข้ามาที่คลินิก เพื่ออ่านผลอีกที ตัวยาที่ฉีดไปเขาเรียก “Tuberculin Skin Test” ย่อ ๆ ว่า TST ตรวจหาเชื้อวัณโรคโดยไม่ต้องฉายแสงเอกซเรย์ปอด นางยื่นเอกสารให้ ในนั้นระบุชัดเจน ห้ามมาก่อน หรือหลังจากเวลานี้ๆ
ฉันพะยักหน้าตอบไปด้วยเสียงสั่นเครือ “โอเค งั้นก่อนเข้ามา จะโทรมานัดคุณหมออีกที”​
นางพยาบาลขบฟันหนักกว่าเดิม จินตนาการชะนีผิวดำ พับหน้าเหมือนตอนคลอดลูก คำรามเสียงขรม

“ไม่ต้องนัด เข้ามาได้เลย”​


สามเกลอ 
98584 - U.S.A. 

No comments:

Post a Comment