ก้าวแรก ปฐมบทแห่ง ไกล.แดน
| บนท้องถนนในเมือง Agra, รัฐ Uttar Pradesh, India |
ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ที่จะทลายกำแพงกั้นระหว่าง ‘ความอยาก’ กับ ‘ความกลัว’ ออกจากกันได้หมดสิ้น ในเมื่อยังไม่เริ่มลงมือทำ...
“นั่นซินะ” ตัวผู้เขียนเองต้องขอสารภาพก่อนว่า ด้วยความที่สร้างมาตรฐานให้กับตัวเองไว้สูง
โดยคาดหวังก่อนจะลงมือทำ เอาผลลัพธ์เป็นที่ตั้ง ดังนั้นเอง กำแพงความกลัว
เริ่มก่อตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความคาดหวังล่วงหน้ามันเกินการคาดเดา
ผลสุดท้ายเมื่อจะลงมือทำเลยพลอยทำให้เกิดเป็นความทุกข์ขึ้นมา ไม่อยากทำเอาดื้อ ๆ หรือทำไปสักพัก
สิ่งเหล่านั้นมักขาดอารมณ์ความรู้สึกของรสสัมผัสที่เรียกมันว่า แรงถวิลหา passion เป็นงั้นไป
เคยคิดเล่น ๆ ในห้องน้ำ หรือแม้แต่ขณะล้างจาน ว่าถ้าเกิดวันหนึ่ง เราหมดศรัทธาแห่งความอยาก
เพราะไอ้เจ้าเส้นกั้นบาง ๆ ของความกลัวขวางกั้นเราไว้
แล้ววันไหนเราจะได้ออกไปดูโลกกว้างสักที
จึงถือว่านี่เป็นนิมิตหมายอันดีที่จะได้ใช้เวลาอยู่ท่ามกลางกระแสต่าง ๆ
ของความเคลื่อนไหวในโลกใบใหญ่ สลัดความกลัว ประหนึ่งคราบน่ารังเกียจ ถอดให้หมดสิ้น
เราจะไม่มีวันได้เห็นว่าโลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่ หากไม่ลองก้าวเดิน มีมิติแห่งความซับซ้อนหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างมากมาย
มากเกินกว่าจะคลังสมองเล็ก ๆ ของมนุษย์จะรับหมด ถ้าหากว่าเราไม่
ก้าว - เดิน – ออก – ไป - ไกล
ขอแตกคำภาษาไทย สี่ห้าคำข้างต้นก่อน
ก้าว สำหรับตัวผู้เขียนเอง หมายถึงการได้เริ่มกิจ
การกระทำอะไรสักอย่างขึ้นมา โดยมีการเพิ่มขึ้นพอกพูนเรื่อย ๆ ไม่ย้อนกลับ
ไม่ลดน้อย ไม่ถอยหลัง
เดิน คงจะประมาณว่าการดำเนินไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้เรื่องราวต่าง ๆ
มันดำรงไปตามวิถี ตามสัญชาตญาณตามธรรมชาติของตัวมันเอง หากแต่ซึมซับ
เก็บเรื่องราวต่าง ๆ สองข้างทางออกมาให้แง่คิด เพื่อความเจริญทางด้านจิตใจ
สังเกตสิ่งรอบข้างให้เห็นวิถีชีวิตของผู้คน วัฒนธรรมอันสลับซับซ้อน มีสีสัน
ออก คำนี้ให้นิยามไม่ยาก
หากแต่จะสนับสนุนให้สองคำก่อนหน้านี้ดูเพิ่มดีกรีความสุขมากยิ่งขึ้น ด้วยการออก
มาจากสิ่งที่ทำให้ระแคะระคายความรู้สึก บั่นทอนความโศก ออกมาจากมิติแห่งความทรมาน
จะกล่าวตรง ๆ คือการออกจากสิ่งที่เป็นเหตุแห่งความทุกข์ทั้งปวง แสวงหาหนทางให้เจอ
จากนั้นก็ค่อย ๆ ก้าว...เดิน
ไป ก็คือสถานที่ จุดหมาย แต่ยังไม่ถึงกลับเป็นปลายทางสิ้นสุด
ในเมื่อผู้เขียนเองเลือกชีวิตที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง หลุดออกจาก ก{ร}งจักร แห่งความสุขเดิม
ๆ ที่หลายปุถุชน เข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นคือรูปแบบความสุขสำเร็จที่ควรจะเป็น เช่น
รูปแบบการโคจรไปของวงวัฏจักรชีวิต ได้แก่เกิดมา เรียน ทำงาน แต่งงาน สร้างครอบครัว มีลูก
จริงอยู่ที่ว่ามันเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข คาดหวังสุดตัวว่ามันจะนำความสุขของเราให้เกิดในอนาคต แต่เราไม่จำเป็นต้องใส่รายละเอียดตามแพทเทิร์นเดิม ๆ
ให้เหมือนกับคนอื่นที่เคยกระทำตามกันมาก็ได้ เพื่อวันหนึ่งเมื่อใดชีวิตไม่ได้ดำเนินตามวาทกรรมเดิม
ๆ นั้น จะกลายเป็นความล้มเหลวของชีวิต ก่อเกิดทุกข์ ขึ้นมาทันที
เมื่อชีวิตยังหมุนแลกเปลี่ยนธาตุต่าง ๆ ไปข้างหน้าเรื่อย ๆ อย่าเลย
ผู้เขียนหวังเล็ก ๆ ว่าหลายคนอย่าได้ขีดเส้นรายละเอียดการเดินทางของชีวิตตน แต่เมื่อวันใดเห็นเส้นรูปแบบชีวิตลาง ๆ จงเลือก และขีดเส้นนั้นให้ชัดเจน ออกเดินตามมันเรื่อย ๆ ไม่ต้องให้เหมือนใคร เพราะเราทุกคนเกิดมาไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถบอกให้เราเป็นอะไรได้ นอกจากตัวเราเลือกและตัดสินใจ เอาเอง
ไกล เมื่อผู้เขียนตัดสินใจ ย้ายถิ่นฐาน
จากแดนดินถิ่นที่เป็นบ้านเกิดของตัวเอง นั่นคือความชัดเจนของเส้นทาง พาชีวิตตัวเองไกลจาก
สภาวะแวดล้อมเดิม ๆ เรียกตามกันว่า "ไกลจากแผ่นดินแม่" ขนาดไหนถึงจะเรียกกว่า “ไกล”
แต่ละคนจะให้คำจำกัดความของคำว่า ไกล แตกต่างกันไป ของผู้เขียนเอง ยึดเอาเป็นว่า
สถานที่ใด แห่งหนตำบลไหน ถ้าไกลออกจากตัวบ้านถิ่นกำเนิดในรัศมี 3 กิโลเมตร
จะใช้คำว่าไกล เพราะอะไรนั่นหรือ คงเป็นเพราะในรัศมี 3 กิโลเมตรที่เราคุ้นชิน ให้จินตนาการลูกโป่งสีใสกลม ๆ ใบเขื่อง ห่อหุ้มร่างกายเราไว้อยู่ ตรงนี้ผู้เขียนเรียก “ภูมิ” เมื่อเราอยู่ในภูมิของเรา
มีภูมิในถิ่นฐานที่เราคุ้นนาน ๆ ย่อมไม่มีอะไรจะมาทำร้ายเราได้
หากแต่ถ้าเราก้าวเท้าออกจากชั้นบรรยากาศ
ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตจะมีอะไรต่อมิอะไรเปลี่ยนแปลงภายนอกรัศมีสามกิโลนั้น เราอาจถูก 'ลองภูมิ' เอาโดยง่าย
คือการถูกลองดีต่อความกล้าแกร่งของเรา มีหลากหลายสิ่งแปลกใหม่
ตามโลกปัจจุบันและอนาคตที่หมุนไปเร็วเกินคาดเดา สิ่งเหล่านั้นจะมาเบียดบัง
บั่นทอนความสุขของเราให้ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้นการได้ออกจาก ถิ่นฐานไกลเกิน
3 ก.ม. จะทำให้เราได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่มากยิ่งขึ้น ได้รับบทเรียนอันมีค่า เป็นเนื้อหาสาระที่จะช่วยอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ รอบตัว ให้รู้จักปรับใช้ ปรับตัว สร้างความสุขนิรันดร์
No comments:
Post a Comment