Saturday, May 17, 2014

ผสานก้าวยิ่งใหญ่ ของศิลปินแห่งชาติ



ผสานก้าวยิ่งใหญ่ ของศิลปินแห่งชาติ 


ผู้เขียนขอยกบางย่อหน้าจากงานเขียนของประภัสสร เสวิกุล ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณกรรม
 “การก้าวหน้าหรือล้าหลัง มันอยู่ที่จิตใจมากกว่าวัตถุ อยู่ที่ความคิดของเรามากกว่าสิ่งที่เราเห็นด้วยสายตา ผมเชื่อว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เป็นความปรารถนาของมนุษย์ทุกคนก็คือความสงบสุข ต่อให้ก้าวไปไกลแค่ไหน ในที่สุดก็จะต้องหวนกลับมาสู่งสิ่งที่เป็นความจริงแท้ของชีวิต และสิ่งที่เป็นธรรมชาติซึ่งไม่ถูกตกแต่งบิดเบือนไป” ย่อหน้าที่ 6 หน้า 74 จากนวนิยายเรื่อง ลานมยุเรศ (พิมพ์ครั้งที่ 5, 2557) 
ข้างต้นเป็นเพียงบางย่อหน้าที่ผู้เขียนชื่นชอบและพอเดาได้ว่าชายผู้นี้มีวิธีการมองโลกที่หยั่งลึกถึงรากเหง้าแห่งประวัติศาสตร์ จากการสั่งสมประสบการณ์ จากการเดินทางหลายต่อหลายประเทศทั่วโลกในฐานะนักการทูต กระบวนทัศน์เพื่อมองโลกและความเชื่อของตัวศิลปินได้รับการบ่มเพาะจากแหล่งอารยธรรมโลกหลายแห่ง และสุดท้ายแล้วมันได้หล่อหลอมมุมมองจากโลกกว้างสู่โลกวรรณกรรมผ่านตัวอักษรของชายแก่ผู้นี้
หนทางแห่งการเป็นศิลปินแห่งชาตินั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด มันทั้งต้องใช้ระยะเวลาและความเพียรพยายาม เรียงร้อยตัวอักษรแต่ละตัวเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ถักทอเหตุการณ์ให้เกิดเป็นเรื่องราว ทั้งยังต้องสะท้อนค่านิยมอะไรบางอย่าง เพื่อบอกต่อแก่ผู้อ่านและสังคมให้เกิดการตระหนัก สู่การเปลี่ยนแปลงต่อไป
หนังสือนวนิยายเรื่อง ลานมยุเรศ นี้เป็นหนังสือที่ตัวฉันได้ขึ้นไปร่วมกิจกรรมตอบคำถามบนเวทีชิงมันมาพร้อมลายเซ็นต์ของนักเขียน จนชนะคว้ามาอ่านได้ในที่สุด อยากจะบอกว่าใช้เวลาเพียงหนึ่งคืนกับอีกหนึ่งวันเท่านั้น อ่านจบตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย เนื้อหาในหนังสือฉันไม่ขอวิจารณ์ ด้วยประหนึ่งว่าเปรียบงานเขียนชิ้นนี้เป็นผลงานทางศิลปะ สำหรับให้ผู้รับสารแต่ละคนใช้ความเป็นปัจเจกตีความแห่งสุนทรียภาพด้วยตัวเอง บางคนอาจจะแค่ชอบแค่ครึ่งหนึ่งของหนังสือเหมือนฉันก็เป็นได้...อุ๊ปส์
ด้วยความหนากว่า 360 หน้ากระดาษ อะไรเล่าเป็นแรงกระตุ้นมหาศาลให้ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้จบภายในระยะเวลาไม่นาน คงเป็นเพราะความประทับใจต่อตัวศิลปินนักเขียนที่จรดลายเซ็นต์ บรรจงจารึกอักขระ ส่งความปรารถนาดีพร้อมระบุชื่อฉันผ่านปลายปากกาหมึกซึมสีน้ำเงิน ฉันจ้องมองนักเขียนด้วยความเลื่อมใส ภาพตรงหน้าคือท่านบรรจงจรดปลายปากกา โค้งแนวกระดูกสันหลังอันแก่งอม ก้มมองร่องน้ำหมึกทีละเส้นอย่างละเอียดละออ อีกมือหนึ่งกุมหน้าปกหนังสือให้เปิดออก เขียนเสร็จแล้วส่งมอบแก่ฉันพร้อมระบายยิ้มที่มุมปาก เล็ก ๆ
ผู้เขียนรับมาด้วยหัวใจอันพองโต  นึกในใจ... นี่ซินะ พลานุภาพแห่งน้ำหมึก 

No comments:

Post a Comment